ข่าวโซเชียล

แซนโฏนตา หรือ วันสารทเขมร ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๐ เบ็นตูจ (สารทเล็ก) จัดกันในวันขึ้น 14-15 ค่ำา เดือน 10 ถือเป็นวันเริ่มต้นที่ประตูยมโลกเปิด ปีนี้ 9-10 กันยายน 2562 เบ็นทม (สารทใหญ่) จัดกันในวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 วันสุดท้ายของการเปิดประตูยมโลก ปีนี้ 24 กันยายน 2562 จะมีพิธีกรรมแซนโฏนตา งานประเพณีแชนโฏนตา หรือ วันสารทเขมร เป็นประเพณีหนึ่งที่มีความสำคัญ และปฏิบัติสืบทอดติดต่อกันมายาวนาน นับเป็นพัน ๆ ปีของชาวไทยเชื้อสายเขมร ที่แสดงออกถึงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ สะท้อนให้เห็นความรัก ความ ผูกพัน ความกตัญญูรู้คุณ ของสมาชิกในครอบครัวเครือญาติ และชุมชน โดยจะประกอบพิธีกรรม ตรงกับวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นลูก หลาน ญาติ พี่น้องที่ไปประกอบอาชีพ หรือตั้งถิ่นฐานอยู่ที่อื่น ไม่ว่าจะใกล้ หรือไกลจะต้องเดินทางกลับมารวมญาติ เพื่อทำพิธีแซนโฏนตา เป็น ประจำทุกปี แซน หมายถึง การเซ่น การเซ่นไหว้ การบวงสรวง โภนตา หมายถึง การทำบุญให้ปูย่า ตายาย หรือ บรรพบุรษที่ล่วงลับไปแล้ว ประเพณีแซนโฏนตา จึงหมายถึง ประเพณีการเช่นไหว้ผีบรรพบุรุษ ที่นับได้ว่าเป็นประเพณีสำคัญที่คนไทยเชื้อสายเขมร มีการสืบทอดกันมาเป็นระยะเวลา นาน ปีนี้ตรงกับวันที่ 24 กันยายน 2562 #แชร์ไป #ให้โลกรู้ว่า #บุรีรัมย์มีดี #buriramworld #บุรีรัมย์ #buriram

วันนี้งัยเบ็นทม แซนโฎนตา บูชาบรรพบุรุษ ลูกหลานจะพร้อมใจกันนำสำรับ กับข้าวคาวหวาน นุมเนกเจกอันซอม มาเซ่นไหว้บรรพบุรุษและดวงวิญญาณเร่ร่อน ที่ปรโลกเปิดประตูให้เหล่าดวงวิญญานดังกล่าวออกมารับส่วนบุญที่ลูกหลานอุทิศให้ เวลาประตูเปิด (เบ็นตูจ ขึ้น14 ค่ำเดือน 10) เวลาประตูปิด (เบ็นทม แรม 14 ค่ำเดือน 10) #buriramworld #บุรีรัมย์ #buriram

ได้วิกหรือยังอันซอมหน่ะ #buriramworld #บุรีรัมย์ #buriram

ตื่นเช้ามานี้ ขอให้ดีกับดี ตระเตรียมสิ่งของเซ่นไหว้ แรม 14 ค่ำ เดือน 10 งัยเบ็นทมแซนโฎนตา วันปิดประตูปรโลก เร่งทำบุญอุทิศส่วนกุศล ให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับและวิญญาณเร่ร่อน #buriramworld #บุรีรัมย์ #buriram

เบ็นตูจ เบ็นนทม- เมื่อประตูจากอีกโลกหนึ่งเปิดออก การทำบุญเพื่ออุทิศแด่บรรพบุรุษในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 เชื่อกันว่าเหล่าดวงวิญญาณบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ จะถูกปล่อยออกมาจากปรโลก ประตูวิญญาณที่เปิดขึ้นตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ไปจนถึง แรม 14-15 ค่ำเดือน 10 (เบ็นทมและแซนโฎนตา) เหล่าดวงวิญญาณจึงสะดวกและเฝ้ารอที่จะรับเอาผลบุญกุศลจากญาติโยมในช่วงนี้เป็นที่สุด ว่ากันว่า หากดวงวิญญาณบรรพบุรุษผู้ล่วงลับได้ผลบุญที่ลูกหลานทำไปให้ในช่วงนี้ ท่านจะช่วยส่งเสริมผลแห่งบุญให้ชีวิตเราดี ทำมาค้าขึ้นรุ่งเรือง แต่หากดวงวิญญาณบรรพบุรุษที่ไม่ได้รับการทำบุญอุทิศให้ หรือลูกหลานละเลย ดวงวิญญาณเหล่านั้นจะสาปแช่ง ส่งผลให้การดำเนินชีวิตไม่มีความสุข ภาพโดยคุณพีระณัฐ ณ วัดกระดึงทอง #buriram #บุรีรัมย์ #buriramworld

โฎนตาทำตลาดบรีรัมย์คึกคัก ตลาดค้าปลีกเมืองบุรีรัมย์คึกคักเป็นพิเศษ ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยเตรียมของไหว้โฎนตา แม่ค้าข้างในตลาดบอกว่าเนื้อหมูขายดีมาก มีรูปแบบจัดสำหรับเซ่นไหว้โดยเฉพาะ หัวหมูลุงลูกค้าคนนึงบอกว่า บางร้านขายหัวละ 1,000 บางร้านขายหัวละ 500 ตามขนาดและคุณภาพ นุมเนกเจกอันซอมมีครบ 24 กันยายนนี้ โฎนตาพร้อมกัน #buriram #บุรีรัมย์ #buriramworld

- 499 บาทเพิ่มยอดไลค์ได้เป็นพันNaN499 บาทเพิ่มยอดไลค์ได้เป็นพันโดย BURIRAM WORLD : มหานครอีสานใต้ เซราะกราวออนไลน์ 24 ชม.

this is test : mean to overide Body UI

ศบค.มีมติยกเลิก "พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ" คุมโควิดระบาด ตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้ ศบค.ชุดใหญ่ มีมติเคาะยกเลิก “พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ” คุมการระบาดโควิด-19 พร้อม ยุบ “ศบค.” หลัง คกก.โรคติดต่อฯ ประกาศให้เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง ตั้งแต่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป วันนี้ (23 ก.ย.65) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 12/2565 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน เห็นชอบยกเลิกประกาศการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) เพื่อกลับไปใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ภายหลังจากจากคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ประกาศให้โควิด-19 จากที่เป็นโรคติดต่ออันตราย มาเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของศบค. ก็จะถูกยุบตามไปด้วย ด้าน นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. กล่าวก่อนการประชุม ศบค. ว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ของไทย ตัวเลขผู้ป่วยที่เข้ารักษามีประมาณ 800-1,000 คน ส่วนการตรวจเอทีเคที่รายงานเข้าระบบมีประมาณ 13,000-14,000 คนต่อวัน แต่มีอาการที่ไม่รุนแรง จึงเป็นเหตุผลการเปลี่ยนผ่านโรคโควิด-19 จากโรคติดต่อร้ายแรงสู่โรคติดต่อเฝ้าระวัง แต่ยังไม่ได้เป็นโรคประจำถิ่น เพราะการประกาศเป็นโรคประจำถิ่น จะต้องมีตัวเลขผู้ติดเชื้อน้อยกว่านี้ เมื่อประกาศเป็นโรคเฝ้าระวัง สามารถผ่อนคลายกิจกรรมได้ แต่ยังย้ำให้ทุกคนต้องดูแลตัวเอง ประเมินความเสี่ยง ไม่ไปในที่แออัด สวมใส่หน้ากากอนามัย พร้อมเน้นย้ำเรื่องวัคซีน โดยเฉพาะเข็มกระตุ้นมีประโยชน์ นพ.อุดม ยืนยันว่า หากมีการระบาดระลอกใหม่ รัฐบาลไม่กังวล เพราะได้มีการวางระบบไว้หมดแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเป็นการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดย ศบค. ทำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกันได้ และตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป ไม่ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็ต้องยุบ ศบค. ไปด้วย โดยวันนี้จะหารือกันเบื้องต้นให้คณะรัฐมนตรี มอบหมายงานเหมือนกับ ศบค. เพื่อให้กระทรวงต่างๆ ทำงานร่วมกันก่อน เพื่อรอการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติโรคติดต่อ ที่ขณะนี้จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จะไม่เกิดสุญญากาศระหว่างรอกฏหมาย เพราะสถานการณ์โควิด-19 ไม่รุนแรง กระทรวงต่างๆ คุ้นเคยและมีการเชื่อมโยงการทำงานกันหมดแล้ว. ภาพจาก Thaigov #buriram #บุรีรัมย์ #buriramworld

โมเวยโฎนตา โฎนตามาชนำเมียน มะนอง อั๊ยยะอ่ะเอิงเอยยยยยยยย 24 กันยา โฎนตาพร้อมกัน สแอก #buriram #บุรีรัมย์ #buriramworld