วันศุกร์, พฤษภาคม 17, 2024

บุรีรัมย์-ส่องงบ 74 ล้านบาท!!! ชาวบุรีรัมย์ได้อะไร

บุรีรัมย์ ดำเนินการก่อสร้างศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อส่งเสริมสุขภาพ สมรรถภาพของนักกีฬา และส่งเสริมสุขภาพพลานามัยของประชาชน

วันนี้(08 ต.ค. 63) นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ ยกเสาเอก-เสาโท อาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา จังหวัดบุรีรัมย์ ที่บริเวณด้านหลังสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยมีนายสมปอง จันทรี ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตลอดทั้งหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชนในวงการกีฬา ร่วมประกอบพิธี

สำหรับอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ การกีฬาแห่งประเทศไทยได้อนุมัติงบประมาณก่อสร้างจำนวน 74,000,000.- บาท ก่อสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ขนาดความกว้าง 14.40 เมตร ความยาว 18 เมตร มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในวันที่ 17 มีนาคม 2564 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะมีการติดตั้งเครื่องมือ อุปกรณ์วิทยาศาสตร์การกีฬาที่มีความทันสมัย ครอบคลุมทุกด้าน สำหรับการส่งเสริมสุขภาพ สมรรถภาพของนักกีฬา และการส่งเสริมสุขภาพพลานามัยของประชาชนตามหลักวิทยาศาสตร์และเวชศาสตร์การกีฬาครบวงจร ตามมาตรฐานสากล

Image may contain: 2 people, outdoor, text that says 'ก เสาโท SAT ารกีฬา จังหวัดบุรีรัมย์ คม พ.ศ. ๒៥๖๓ เวลา ๐๙.๐๙ APHUENG รถเกียว) 8063303'

Image may contain: one or more people, shoes, sky and outdoor
Image may contain: sky, cloud, tree, plant and outdoor

ข้อมูลจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

บุรีรัมย์เรียกโรงแรมที่พักคุยหลังพบร้องเรียนขึ้นราคาและบังคับจอง 2 คืน

จังหวัดบุรีรัมย์เชิญผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก รีสอร์ท พูดคุยทำความเข้าใจ หลังมีผู้ร้องเรียนว่าปรับขึ้นราคาและบังคับจอง 2 คืน

วันนี้ (25 ก.ย. 63) ที่หอประชุมจังหวัดบุรีรัมย์ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ และ นายจักรพล จงใจภักดิ์ ผู้แทนพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยว กับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์

Image may contain: one or more people and outdoor

เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนและหาทางออกร่วมกัน ในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี การเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีผู้ร้องเรียนว่าจองที่พักเพื่อร่วมงานวิ่งบุรีรัมย์มาราธอน ทำนองว่า มีการตั้งราคาที่พักราคาแพง และยังบังคับให้พักขั้นต่ำ 2 วัน โดยเรื่องดังกล่าวอาจทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเสียหาย

ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้แจ้งว่า จังหวัดบุรีรัมย์นั้นเป็นเมืองที่มีรายได้จากการท่องเที่ยว มีการส่งเสริมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวกระจายคลอบคลุมในทุกอำเภอตลอดทั้งปี มีกิจกรรมใหญ่ๆเช่น บุรีรัมย์มาราธอน และการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โดยที่ผ่านมาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้งดจัดกิจกรรมที่เคยจัดต่อเนื่องทุกปี ทำให้ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบธุรกิจ โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร การค้าขายในจังหวัด กระทบไปด้วย

แต่ขณะนี้มีมาตรการผ่อนคลายต่างๆของรัฐบาล ทำให้จังหวัดบุรีรัมย์กลับมาจัดกิจกรรมกีฬาส่งเสริมการท่องเที่ยวได้แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการของสาธารสุข ซึ่งกิจกรรมใหญ่จะเกิดขึ้นและมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากก็คือ งานบุรีรัมย์มาราธอน 2021 เมื่อมีการเปิดรับสมัคร ก็มีการร้องเรียนเรื่องที่พัก ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว

และจังหวัดบุรีรัมย์ได้ออกประกาศขอความร่วมมือผู้ประกอบการไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการ ป้องกันการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค หากมีการฝ่าฝืนและตรวจสอบว่าเป็นจริงก็จะดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย หากเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ขอให้ผู้ประกอบการรีบอธิบายทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวให้เข้าใจทันที

ด้านผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ที่พัก ได้รับทราบพร้อมร่วมแสดงความคิดเห็นว่า ผู้ประกอบธุรกิจเข้าใจดี และไม่ได้มีการขึ้นราคาเกินจริงโดยปกติก็ราคาห้องพักโรงแรมต่างๆ ก็เป็นอัตราเดียวกันตลอดทั้งปี อาจจะมีบ้างที่กิจกรรมใหญ่มีการปรับขึ้น เนื่องจากมีบริการเสริมต่างๆ ขึ้นมาเช่น การบริการอาหารหลากหลาย การบริการรับส่ง และอื่นๆ เพิ่มขึ้นจากการบริการปกติ ประเด็นการร้องเรียนนั้นอาจเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากธุรกิจโรงแรมที่พัก ในจังหวัดบุรีรัมย์มีหลายประเภท มีการจองผ่านคนกลางแล้วไปขายต่อ ซึ่งประเด็นนี้ก็อาจเป็นปัญหา

ส่วนการจองผ่านแอปพลิเคชั่น ผ่านเว็บไซต์นั้น ราคาจะมีบอกไว้ชัดเจนอยู่แล้ว และการจองก็มีทั้งวางมัดจำ และไม่วางมัดจำ ผู้ให้บริการที่พักก็มีความเสี่ยงต่อการยกเลิก ส่วนมีกระแสว่ามีการบังคับจอง 2 คืนนั้น ไม่ได้เป็นการบังคับแต่อย่างใด

ซึ่งในปีที่ผ่านมาก็มีนักวิ่งเข้าพักคืนเดียว ร่วมกิจกรรมเสร็จแล้วกลับ และก็มีอีกจำนวนมากที่ร่วมกิจกรรมแล้วพักต่ออีก 1 คืน เพื่อท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ต่อแล้วกลับ ซึ่งทางโรงแรมได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันแล้ว และผู้ร้องเรียน ยังได้จองห้องพักเพื่อที่จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมในปีต่อๆ ไปอีกด้วย และผู้ประกอบการยินดีให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

เมียพาผัวแหกคุก ทิ้งลูกน้อยหน้าโรงเรียน ซิ่งหนีจับกุม

0

new18 รายงาน เกิดเหตุผู้ต้องหาชายหลบหนีการจับกุม ระหว่างสอบสวน ที่ สภ.นางรอง บุรีรัมย์ โดยหนีไปกับเมียที่สตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์รอพร้อมลูก 2 ขวบ ก่อนขับซิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เผยลูกน้อยมาด้วยทิ้งไว้ที่หน้าโรงเรียน เพื่อให้พี่สาวรับกลับบ้านแล้วหนีไป ยังตามจับไม่ได้ ชาวบ้านเผยเคยโดนขโมยหลายครั้งแต่ไม่ไปแจ้งความ



วันที่ 27 ก.ย. กรณีนายชัชชัย อายุ35 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ ผู้ต้องหาคดี “ลักทรัพย์ที่เป็นเครื่องมือกล ที่ไว้สำหรับประกอบกสิกรรม หรือได้มาจากการประกอบกสิกรรม ในเวลากลางวันในเคหะสถาน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ได้หลบหนีการจับกุมระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม หลังตำรวจนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้ง 8 จุดที่เคยก่อเหตุขโมยข้าวเปลือกและเครื่องกลทางการเกษตรของชาวบ้าน เหตุเกิดเมื่อเวลา 14.30 น.(25 ก.ย.) ล่าสุดตำรวจยังตามจับกุมไม่ได้



จากการตรวจสอบที่บ้านของนายชัชชัย พบนายสมชาย โนนวิลัย อายุ 26 ปี อาชีพก่อสร้าง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับคดีมากนัก โดยวันเกิดเหตุหลบหนีเห็นลูกสาวคนโตของนายชัชชัย ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.1 เดินจูงน้องสาววัย 2 ขวบ (เด็กที่แม่พาไปรับพ่อหนีจากโรงพัก) กลับบ้าน เมื่อสอบถามทราบว่า พ่อกับแม่เอาน้องมาทิ้งไว้ที่หน้าโรงเรียน แล้วมีคนไปบอก ส่วนพ่อกับแม่ไม่เจอกัน ไม่รู้ว่าไปไหน จึงพาน้องกลับบ้าน


ผู้สื่อข่าวสอบถามชาวบ้านหลายคนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน เล่าเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วงที่นายชัชชัย อยู่บ้าน ข้าวของจะหายเป็นประจำ ถังแก๊สหายหลายครั้ง แต่ไม่กล้าแจ้งความ กลัวจะถูกทำร้าย เพราะนายชัชชัย เป็นคนน่ากลัว อยากให้ตำรวจจับตัวได้โดยเร็ว และอยากให้ติดคุกนานๆ ชาวบ้านจะได้อุ่นใจ

สำหรับนายชัชชัยเคยต้องโทษและติดคุกมาหลายครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นคดีลักทรัพย์ เคยหลบหนีการจับกุมและติดคุกมาแล้ว กระทั่งไปก่อเหตุขโมยข้าวเปลือกและเครื่องกลการเกษตรของชาวบ้านในอำเภอนางรอง หลายจุด จนกระทั่งศาลนางรอง ออกหมายจับเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะหลบหนีไปอยู่จังหวัดสมุทรสาคร แล้วถูกตำรวจกองปราบและชุดสืบสวนจับได้ นำตัวมาดำเนินคดีที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ กระทั่งก่อเหตุหลบหนีระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม

ที่มา https://www.newtv.co.th/news/65780

ส่อง BURIRAM GO GREEN & CLEAN ของบุรีรัมย์ยูไนเต็ด

บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด จับมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จํากัด (มหาชน) หรือ EA ที่ดำเนินการธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังธรรมชาติ

Image may contain: outdoor

ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม เพื่อเดินหน้าโมเดล ‘BURIRAM GO GREEN & CLEAN’ อนุรักษ์โลก และการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ที่สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งคอนเซปต์เอาไว้ช่วงต้นฤดูกาล 2020

การจับมือเป็นพันธมิตรกันของทีม ‘ปราสาทสายฟ้า’ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ EA เป็นการร่วมกันติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่สนามช้างอารีนา, โครงการบุรีรัมย์คาสเซิล และโรงแรมอมารี บุรีรัมย์

เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ใช้เองในพื้นที่ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นเวลา 15 ปี โดยทั้ง 3 สถานที่ได้ทำการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ทั้งหมด 3,032 ตารางเมตร แบ่งเป็น สนามช้างอารีนา 1,080 ตารางเมตร, โครงการบุรีรัมย์คาสเซิล 976 ตารางเมตร และโรงแรมอมารี บุรีรัมย์ 976 ตารางเมตร โดยแผงโซลาร์เซลล์ 3,032 ตารางเมตร สามารถผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยได้ 2,475.00 หน่วยต่อวัน หรือ 903,375.00 หน่วยต่อปี

Image may contain: outdoor

การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จะทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สามารถประหยัดงบประมาณได้มากถึง 25% จากการเสียค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้าแบบปกติ โดยปีแรกของการติดตั้ง ปราสาทสายฟ้า จะสามารถประหยัดงบประมาณที่จะต้องใช้จ่ายค่าไฟฟ้าถึง 2,529,450 บาท (สนามช้างอารีนา 900,991 บาท, โครงการบุรีรัมย์คาสเซิล 814,229 บาท และโรงแรมอมารี บุรีรัมย์ 814,229 บาท) ทำให้ตลอด 15 ปีของสัญญา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะประหยัดเงินได้มากถึง 37,941,750 บาท

ทั้งนี้ ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลแรกของเมืองไทยที่ใช้พลังงานบริสุทธิ์จากแสงอาทิตย์แบบเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นการช่วยอนุรักษ์โลก และการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

Image may contain: outdoor

สำหรับ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงดูแลความเป็นอยู่ของชุมชนและสังคม เพื่อแก้ปัญหาความยากจน และปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและสังคม ภายใต้แนวนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Image may contain: one or more people, sky, cloud, outdoor, water and nature

บุรีรัมย์-เกิดเหตุสลดลุงขี่ จยย.โดนน้ำพัดจมดับคาฝาน้ำล้น

ในช่วงพายุโนอึลเข้าจังหวัดบุรีรัมย์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในขณะที่หลายๆคนกำลังดีใจที่มีน้ำในนาข้าว และอ่างเก็บน้ำต่างๆที่แล้งมานาน แต่คงไม่ใช่กับครอบครัวนี้ที่ได้รับข่าวการสูญเสียของคุณลุงจากเหตุการณ์ดังต่อไปนี้

รายการเช้านี้ที่หมอชิตรายงานว่าที่จังหวัดบุรีรัมย์เกิดเหตุสลด ชายสูงอายุขี่จักรยานยนต์ข้ามฝายน้ำล้นจะไปหาปลา ถูกกระแสน้ำไหลแรง พัดจมหายทั้งรถทั้งคน สุดท้ายกลายเป็นศพเสียชีวิต 

เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อช่วงสายวันที่ (21 ก.ย.) ภายในฝายน้ำล้นบ้านกระสัง อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ โดยอาสากู้ภัยและนักประดาน้ำ ได้ช่วยกันงมหานายอุดร พลเทพ อายุ 60 ปี ชาวบ้านหาปลาที่จมน้ำสูญหายไม่รู้ชะตากรรม พร้อมกับจักรยานยนต์คู่ใจคันที่ขี่มา โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาค้นหาอยู่นานกว่า 5 ชั่วโมง

จนกระทั่งสุดท้าย เจอตัวในสภาพที่เสียชีวิตแล้ว พร้อมกับรถจักรยานยนต์ที่จมน้ำ โดยมีถุงปุ๋ยใส่แหหาปลาที่เตรียมมาลอยน้ำอยู่ ท่ามกลางความเสียใจของภรรยาและญาติที่พบเห็น เหตุการณ์ไม่คาดฝันในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังผู้สูงอายุรายนี้ ขี่รถกลับจากไปส่งหลานที่โรงเรียน และได้มาเตรียมอุปกรณ์เพื่อจะออกไปหว่านแหหาปลา ซึ่งระหว่างนั้นภรรยาของเขาได้ถามว่า ไม่กินข้าวก่อนหรือ เขาตอบว่า เดี๋ยวจะกลับมากิน จากนั้นก็หายไปนานหลายชั่วโมงและไม่กลับมากินข้าวอีกเลย จนกระทั่งมีชาวบ้านมาบอกผู้เป็นภรรยาว่า สามีถูกกระแสน้ำพัดจมหายในฝายน้ำล้นที่เกิดเหตุ

สำหรับฝายน้ำล้นที่เกิดเหตุแห่งนี้ มีความลึกประมาณ 10 เมตร ซึ่งปกติจะไม่ค่อยมีน้ำไหลผ่านด้านบน แต่เนื่องจากในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนชาวบ้าน ให้ระมัดระวังการขับขี่รถ ขณะข้ามฝายน้ำล้นที่เกิดเหตุดังกล่าว

ภาพ/ข่าว เช้านี้ที่หมอชิต

บุรีรัมย์-คืบหน้าทวงคืนทับหลังปราสาทหนองหงส์บุรีรัมย์กลับจากอเมริกา

0

รัฐบาลไทยเตรียมรวบรวมข้อมูลทวงคืนโบราณวัตถุชิ้นสำคัญจากพิพิธภัณฑ์ในสหรัฐเพิ่มเติมอีก 10 รายการ ส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ทรงคุณค่า 

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ได้รับทราบความคืบหน้าการติดตามทวงคืนโบราณวัตถุ ปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ และปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว จากพิพิธภัณฑ์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นของไทยแล้ว ล่าสุดอยู่ในสู่ขั้นตอนการดำเนินการทางกฎหมายและศาลโอนกรรมสิทธิ์จากพิพิธภัณฑ์ให้แก่รัฐบาลกลางสหรัฐเพื่อเตรียมส่งคืนไทย คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2564 

ทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว

นอกจากนี้ ที่ประชุม ยังมีมติให้ทวงคืนโบราณวัตถุของไทย คืนจากสหรัฐอีก 10 รายการ โดยจัดทำเอกสารแล้วเสร็จพร้อมส่งให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับทางการสหรัฐ 1 รายการ ได้แก่ ประติมากรรมพระพุทธรูปประทับเหนือพนัสบดี ศิลปะทวารวดี  เมืองโบราณซับจำปา อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี  ซึ่งได้รับการยืนยันว่ามีถิ่นกำเนิดในไทย ส่วนอีก 9 รายการ ส่วนใหญ่พระพุทธรูปที่จัดแสดงอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ของสหรัฐในรัฐต่างๆ ได้มอบหมายให้กรมศิลปากรศึกษาข้อมูลเพื่อจัดทำเอกสารแปลเป็นภาษาอังกฤษ ไปถึงสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร เพื่อเข้าสู่กระบวนการขอคืนกลับสู่มาตุภูมิแผ่นดินไทยต่อไป

โดยก่อนหน้านี้ โบราณวัตถุล้ำค่าของไทยอย่างทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังของปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว ที่จัดแสดงอยู่ที่ Asian Art Museum เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา หลังจากถูกโจรกรรมไปยังต่างประเทศมานานหลายสิบปี

ทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์

ปราสาทหนองหงส์ ตั้งอยู่ที่ตำบลโนนดินแดง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ และปราสาทเขาโล้นที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดปราสาทเขาโล้น บ้านเจริญสุข ตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว และทับหลังล้ำค่าของปราสาททั้งสองแห่งที่กำลังจะได้กลับคืน

กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ได้ติดต่อประสานงานอย่างเป็นทางการ ผ่านกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ส่งหนังสือติดตามทวงคืนโบราณวัตถุถึงสำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Homeland Security Investigations) สหรัฐอเมริกา และส่งข้อมูลการศึกษาทางวิชาการพร้อมหลักฐาน ที่เกี่ยวข้อง เช่น รายงานการสำรวจของกรมศิลปากร ตัวอย่างเอกสารอนุญาตในการส่งออกโบราณวัตถุ เป็นต้น เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวน ยืนยันว่าโบราณวัตถุนั้นมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและได้ถูกลักลอบนำออกไปโดยวิธีการที่ผิดกฎหมาย
 
นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร ได้รับแจ้งข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศอย่างไม่เป็นทางการว่า สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานในปัจจุบันซึ่งมีแนวโน้มไปในทางที่ดี โบราณวัตถุชุดแรกที่ดำเนินการติดตาม ได้แก่

ทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว และ ทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่จัดแสดงอยู่ที่ Asian Art Museum นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา และทางพิพิธภัณฑ์ฯ ได้ยอมรับว่าทับหลังทั้ง 2 รายการ เป็นกรรมสิทธิ์ของฝ่ายไทย

ปัจจุบันได้นำทับหลัง 2 ชิ้นดังกล่าวออกจากห้องจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์มาจัดเก็บในห้องคลัง เพื่อรอขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในกระบวนการส่งคืนสู่ประเทศไทย ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง คาดการณ์ว่ากระบวนการทางกฎหมายจะแล้วเสร็จราวเดือนมีนาคม 2564


กรมศิลปากรจึงได้รายงานความคืบหน้านี้ถึง นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อรายงานถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อทราบแล้ว ทั้งนี้ หากกรมศิลปากรได้รับหนังสือจากกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งเรื่องการส่งคืนโบราณวัตถุอย่างเป็นทางการแล้ว จะเร่งนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อรายงานถึงนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการต่อไป

ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : มาลี ไชโย / สวท.

ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา

แหล่งที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

บุรีรัมย์ – “วิ่งตามภูมิประเทศรอบภูเขาไฟกระโดง” ท่ามกลางสายฝน โนอึล

0

บุรีรัมย์ นักวิ่งจำนวนมากเดินทางไปร่วมกิจกรรม #KhaoKradong Trail “วิ่งตามภูมิประเทศรอบภูเขาไฟกระโดง” ท่ามกลางสายฝน โนอึล

วันนี้ (20 ก.ย. 63) 06.00 น. ที่บริเวณวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เดินทางไปต้อนรับนักกีฬาและปล่อยตัวนักวิ่ง ที่เดินทางไปร่วมกิจกรรม “วิ่งตามภูมิประเทศ Khao Kradong Trail ” ครั้งที่ 4 ส่งเสริมวิถีกีฬา วิถีเซราะกราวบุรีรัมย์ สู่เมืองกีฬามาตรฐานโลก ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์

Image may contain: 2 people, people standing and outdoor

ร่วมกับสำนักงานท่องและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง และชมรมวิ่งเพื่อสุภาพจังหวัดบุรีรัมย์ร่วมจัดขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด ตลอดทั้งเป็นการส่งเสริมพัฒนากีฬา “บุรีรัมย์เมืองกีฬา” (Buriram Sports city) โดยมีการปล่อยตัวนักวิ่งประกอบด้วยการวิ่ง 3 ระยะ ได้แก่ HalfT rail ระยะทาง 21 กิโลเมตร /Mini Trail ระยะทาง 11 กิโลเมตร /Fun Trail ระยะทาง 5 กิโลเมตร ซึ่งวิ่งจะได้สัมผัสความสวยงามทางธรรมชาติของ วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง หลุมหิน น้ำตก

Image may contain: 3 people, crowd, sky and outdoor

สำหรับบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึดคัก ถึงแม้จะมีฝนตกโปรยปรายจาก อิทธิพลของพายุ “โนอึล” แต่ก็ยังวิ่งผู้ที่มีใจรักในการออกกำลังกาย ร่วมวิ่งสัมผัสความสวยงามทางธรรมชาติรอบๆ ภูเขาไฟกระโดง ทุกระยะรวมกว่า 1,500 คน โดยจังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดสิ่งอำนวยความสะดวก ความสะดวกปลอดภัย สร้างความประทับใจแก่นักกีฬา

ตลอดทั้งนำมาตรการด้านสาธารณสุขไปตรวจคัดกรองนักกีฬาเจ้าหน้าที่ ตลอดทั้งผู้ที่เข้าบริเวณจัดงานทุกคนเพื่อป้องกันการแพ่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 อย่างเข้มงวด และกิจกรรมนี้มีบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมวิ่งไปพร้อมอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อที่จะได้ดูแลนักวิ่งทั่วไปเกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ หรือมีเหตุฉุกเฉิน จะได้ช่วยเหลือเบื้องต้น และประสานส่งต่อได้ทันที เนื่องจากเป็นการวิ่งบนเส้นทางธรรมชาติ

Image may contain: 5 people, people standing, shoes and outdoor
Image may contain: 7 people, tree, child, shoes, crowd, outdoor and nature, text that says '2020 RAIL'
Image may contain: 2 people, people standing, shoes, tree, plant, shorts, outdoor and nature

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

บุรีรัมย์ – ดราม่าป้าขึ้นเหยียบเขียง ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

0

ในโลกแห่งความเป็นจริง เวลาทานอาหารที่ร้านอาหารต่างๆ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ากว่าจะผ่านมาเป็นอาหารจานหนึ่งๆที่ร้านอาหารเอามาเสริฟให้เรากินนั้นผ่านกระบวนการอะไรมาบ้าง

เช่นเดียวกันกับกรณีนี้ เฟสบุ๊คผู้ใช้ชื่อว่า ศักรินทร์ ดาวร้าย’ยยย ได้เผยแพร่ข้อความพร้อมภาพประกอบเป็นร้านอาหารแห่งหนึ่งที่มีหญิงคนหนึ่งกำลังใส่รองเท้าขึ้นเหยียบเขียงสำหรับทำอาหาร

“ขอแชร์ประสบการณ์ ร้านข้าวร้านหนึ่ง หน้ามอราชภัฏบุรีรัมย์

เริ่มจากการให้บริการและการพูดจากับลูกค้า อาจจะด้วยเป็นความเคยชินของเขาที่พูดตะคอกเสียงดังและไม่ค่อยมีหางเสียง ครั้งหนึ่งลูกค้าเดินมาถามว่าได้หรือยัง ป้าเจ้าของร้านผู้หญิงตอบกลับว่า *ก็รอก่อนสิกำลังทำอยู่ มาทีหลังเขาจะเอาก่อนเขาได้ยังไง ( พูดตะคอกเสียงดัง ) ลูกค้าคนนั้นเดินไปขึ้นรถแล้วกลับเลย
( เคสนี้ผมอยู่ในเหตุการณ์ )

มีอยู่ครั้งหนึ่ง หมูหล่นลงกับพื้น แล้วลุงผู้ชายเจ้าของร้านเก็บขึ้นมาใส่กล่องให้ลูกค้าตามเดิม ( เห็นกับตา เพราะอยู่ในเหตุการณ์ )

อีกครั้ง ลูกค้าสั่งผ่านเดลิเวอรี่ค่ายหนึ่ง น่าจะเป็นผัดกระเพราหมูสับพิเศษ ป้าผู้หญิงเจ้าของร้านก็ตักใส่กล่องตามปกติ เห็นป้าตักกับข้าวน้อยมาก ผมเลยทักว่า ป้าเขาสั่งพิเศษนะครับ ป้าตอบกลับมาว่า ก็นี่แหละพิเศษถ้าอยากจะให้เยอะก็เปิดร้านเองสิ ผมได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆ รับของแล้วไปส่งลูกค้า ส่งเสร็จรีบกลับเลย กลัวลูกค้าจะเปิดดูในกล่อง แล้วจะด่าเรา เพราะมันได้น้อยมาก
( เคสนี้เจอกับตัว )

เคสล่าสุด ตามภาพเลยครับ เคสนี้เพื่อนในกลุ่มไลน์ส่งมาครับ สดๆร้อนๆวันนี้เลยครับ เจอรูปนี้ผมจึงตัดสินใจมาโพสแชร์ประสบการณ์ อยากให้ลูกค้าพิจารณาเอาเองตามภาพ

ไม่ได้มีเจตนาจะดิสเครดิตร้าน
แต่ร้านควรให้เกียรติลูกค้ามากกว่านี้ครับ

ทั้งหมดนี้ผมแค่มาแชร์ประสบการณ์ที่เจอด้วยตัวเอง
และเป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับ”

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ผู้คนกำลังนั่ง, สถานที่ในร่ม และสถานที่กลางแจ้ง

ขอแชร์ประสบการณ์ ร้านข้าวร้านหนึ่ง หน้ามอราชภัฏบุรีรัมย์ เริ่มจากการให้บริการและการพูดจากับลูกค้า…

Posted by นักเย็ดเจ็ดราตรี ตามหา พระมเหสีหีเหล็ก on Saturday, 19 September 2020

ทั้งนี้ก็ได้มีคนเข้าแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากในหลากหลายเเง่มุมมากกว่า 1 พันคอมเม้นต์ โดยโพสต์ดังกล่าวยมียอดไลค์ถึงกว่า 2 พันคน ยอดแชร์กว่า 4 พันแชร์

บุรีรัมย์ – กรมอุตุฯ เตือน 20 จังหวัด เหนือ – อีสาน ฝนตกหนัก รับมือให้ดี

0

ลักษณะอากาศทั่วไป    พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของภาคเหนือและภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ฝุ่นละอองขนาดเล็ก    เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง ดังนั้นสภาพอากาศไม่เอื้อต่อการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควัน
 

ภาคเหนือ    เมฆมาก กับกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน
แพร่ อุตรดิตถ์ และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    เมฆมาก กับกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดหนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ
ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง    เมฆเป็นส่วนมาก กับกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี และนครสวรรค์
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก    เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)    เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)    เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล    เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

กรมอุตุฯ เตือน 20 จังหวัด เหนือ - อีสาน ฝนตกหนัก รับมือให้ดี

บุรีรัมย์ อ่วม! น้ำทะลักท่วมตัวอำเภอ ชาวบ้านโวยไม่มีแจ้งเตือน ระบุหนักสุดในรอบ 10 ปี

0

บุรีรัมย์ อ่วม! น้ำทะลักท่วมตัวอำเภอ ชาวบ้านโวยไม่มีแจ้งเตือน ระบุหนักสุดในรอบ 10 ปี

บุรีรัมย์ อ่วม! น้ำทะลักท่วมตัวอำเภอ ชาวบ้านโวยไม่มีแจ้งเตือน ระบุหนักสุดในรอบ 10 ปี

น้ำป่าจาก 2 อำเภอ ไหลทะลักท่วมตัวอำเภอแคนดง บุรีรัมย์ ถนนในตัวอำเภอท่วมสูง 50 ซม.เร่งให้การช่วยเหลือ ขณะชาวบ้านโวย ไม่มีหน่วยงานใดมาแจ้งเตือนก่อนน้ำบ่ามา ทั้งที่รู้สถานการณ์ ระบุหนักสุดในรอบ 10 ปี

วันที่ 19 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฝนตกตลอดทั้งวันทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ มีน้ำไหลหลาก เอ่อท่วมนาข้าวและบ้านเรือนชาวบ้าน แต่ยังไม่พบรุนแรงมากนัก

โดยเมื่อเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา ได้รับรายงานจากอำเภอแคนดง ว่าเกิดน้ำท่วมในตัวอำเภออย่างหนัก ถนนทุกสายในตัวอำเภอมีน้ำท่วมสูงกว่า 50 ซม.รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ถนนสายแคนดง-สตึก มีน้ำท่วมสูง 30 ซม.จากปกติไม่เคยมีน้ำท่วมถึงมาก่อน

ทำให้ถนนในซอยของตัวอำเภอมีน้ำท่วมสูง ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนได้รับความเสียหาย ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 500 หลังคาเรือน ชาวบ้านบางกลุ่มต่างไม่พอใจ หน่วยงานราชการ ที่ไม่มีการแจ้งเตือนก่อน ทั้งที่รู้สถานการณ์เป็นอย่างดี

นายสวาท พันธ์มุง อายุ 71 ปี อยู่เลขที่ 89 /4 หมู่ 15 ต.แคนดง อ.แคนดง เล่าว่า น้ำไหลเข้ามาอย่างรวดเร็วกลางดึก แล้วเข้ามาท่วมในตัวบ้านชั้นล่าง โชคดีที่ภรรยาซึ่งป่วยติดเตียง ไม่ได้นอนกับพื้นเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

ขณะที่นายจำเนรียร การชาติภูมิ อายุ 49 ปี อยู่เลขที่ 92 หมู่ 15 ต.แคนดง เล่าว่า น้ำเริ่มไหลบ่ามาในช่วง 03.00 น.แล้วไหลเข้าท่วมตามบ้านเรือนชาวบ้านอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันตั้งตัว

ที่ผ่านมาอำเภอแคนดง มักจะมีน้ำท่วมเป็นประจำ มวลน้ำที่ไหลมาท่วม จะมาจากอำเภอสตึกและอำเภอคุเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ราบสุงกว่า ทำให้อำเภอแคนดง กลายเป็นจุดรับน้ำ แต่ปีนี้หนักสุดในรอบ 10 ปี