นายกฯ ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งหาข้อเท็จจริงปมเรียกเบี้ยผู้สูงอายุคืน คุยผู้ได้รับผลกระทบ บอกจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป เผยรับบาลกำลังเร่งแก้ปัญหาวิกฤตฝุ่น PM 2.5 เชิงรุก ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน-เพื่อนบ้าน ต้องเข้มงวด แสวงหามาตรการเหมาะสม
วันนี้ (26 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีคุณยายวัย 89 ปี จ.บุรีรัมย์ ถูกกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เรียกเก็บเบี้ยผู้สูงอายุคืนย้อนหลัง 10 ปี จำนวน 84,400 บาท
ว่า ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสำรวจข้อเท็จจริงว่าจะดูแลกันอย่างไรต่อไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลายปีที่แล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิด เพราะปัจจุบันมีการเชื่อมโยงต่างๆ จากกรมบัญชีกลางแล้ว และปัญหาแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป
วันนี้ก็เป็นเรื่องการพบปะหารือพูดคุยกับผู้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว เมื่อถามต่อว่าได้สั่งการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ให้กระทรวงการคลังดูแล เมื่อมีปัญหาก็ต้องตรวจสอบ ระเบียบว่าอย่างไรก็ไปเจรจากัน
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาค่าฝุ่น PM 2.5 ว่ายังเป็นปัญหาระดับชาติอยู่ รัฐบาลก็กำลังดำเนินการแก้ปัญหาในเชิงรุก ที่ผ่านมาก็ได้มีการหารือในเรื่องเหล่านี้ในมาตรการต่างๆ เพื่อลดค่าฝุ่น PM 2.5 ทั้งระยะสั้น ปานกลาง และระยะยาว ทั้งนี้ก็ต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย ทหาร และภาคประชาชน เพราะมีหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม และการเผาพื้นที่การเกษตร
ซึ่งต้องมีความเข้มงวด ต้องมีการแสวงหาแนวปฏิบัติที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนจากค่าฝุ่น PM 2.5 และการทำการเกษตรแบบดั้งเดิมของเรา ก็ขอความร่วมมือด้วยแล้วกันทั้งภาคเอกชนและภาคเกษตรกรต่างๆ เพราะมีผลกระทบต่อประชาชนโดยรวมอื่นๆ ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกันก็ได้มีการหารือตลอดเวลา
แต่วันนี้อากาศมันเชื่อมโยงทั้งหมด ไม่ได้มาจากชายแดนอย่างเดียว มันมาจากพื้นที่ตอนในด้วย ก็ได้หารือกับประเทศเพื่อนบ้านในทุกพื้นที่ ในทุกมิติ หลายช่องทาง ทั้งความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดที่เชื่อมต่อกันทั้งของเราและของเขา
Source ;
mgronline.com /politics/detail/9640000007936