ความคืบหน้ากรณีที่รถกระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สี่ประตู สีขาว ขับปาดหน้าเบียดรถจักรยานยนต์ 3 แม่ลูกที่ซ้อมกันมาจนล้ม ที่บริเวณหน้าปั้มน้ำมันบางจาก ถนนสายบุรีรัมย์ประโคนชัย ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อเวลาประมาณ07.00น. วานนี้ (2มี.ค.) จนทำให้ 3 แม่ลูกได้รับบาดเจ็บ โดยกล้องวงจรปิดของปั้มน้ำมันดังกล่าวสามารถบันทึกภาพอุบัติเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน
โดยในคลิปจะเห็นว่ารถยนต์กระบะ ได้ขับตีคู่กับรถจักรยานยนต์มา แต่พอถึงหน้าปั้มรถกระบะก็เลี้ยวปาดหน้าเบียดรถจักรยานยนต์ซึ่งจะขับไปทางตรง จนทำให้รถจักรยานยนต์เสียหลักล้มกระแทกพื้นอย่างแรง เคราะห์ดีที่ล้อหลังไม่เหยียบศรีษะลูกคนโตที่ซ้อนท้าย
จากนั้นคนขับกระบะสวมเสื้อสีส้มก็ลงจากรถมายืนดู แต่กลับไม่ช่วยเหลือหรือถามอาการผู้บาดเจ็บสักคำ มีเพียงพนักงานในปั้มวิ่งเข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บแล้วโทรแจ้งกู้ภัยฯ ให้มาช่วยนำส่งโรงพยาบาล แต่ช่วงชุลมุนที่กำลังช่วยเหลือคนเจ็บจู่ๆ ลุงคนขับกระบะก็เดินขึ้นรถทำเนียนไปเข้าห้องน้ำในปั้ม ก่อนจะขับหลบหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งมีการนำคลิปไปโพสต์ในโซเชียล เพื่อให้ช่วยตามรถกระบะคันก่อเหตุมารับผิดชอบ
3 มีนาคม 2564 คนขับรถกระบะคันที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ก็ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์แล้ว ทราบชื่อคือ นายชัยศักดิ์ โพธิ์ประไพ อายุ 58 ปี เป็นพนักงานขับรถของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งได้เดินทางมาพร้อมกับภรรยา โดยนายชัยศักดิ์ ยอมรับว่าเป็นคนขับรถกระบะที่ปรากฎตามคลิป แต่ยืนยันว่าไม่ได้เจตนาจะหลบหนี
พร้อมชี้แจงว่าวันเกิดเหตุตนเองกำลังจะขับรถไปหาหมอที่ รพ.บุรีรัมย์ เพื่อเจาะเลือด และรับยาโรคไตตามที่หมอนัด เพราะป่วยเป็นโรคไตมากว่า10ปีแล้ว ปกติจะฟอกไตที่ รพ.สัปดาห์ละ3วัน แต่พอมาถึงหน้าปั้มเกิดปวดท้องหนักก็จะเลี้ยวเข้าห้องน้ำที่ปั้มน้ำมัน
แต่เกิดเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ก็จอดรถลงไปดูและสอบถามน้องผู้หญิงซึ่งน่าจะเป็นลูกสาวว่าเป็นอะไรมั้ยน้องก็ตอบว่าไม่เป็นไรค่ะ จากนั้นก็เห็นพนักงานปั้มวิ่งเข้ามาช่วยหลายคนจึงไม่ได้เข้าไปช่วย ประกอบกับสภาพร่างกายของตนเองก็ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเพราะป่วยโรคไต จึงไม่ได้เข้าไปช่วยยกรถ จยย.ที่ล้ม แล้วเห็นว่าจุดเกิดเหตุอยู่ทางเข้า-ออก กลัวรถจะขวางทางประกอบกับตอนนั้นปวดท้องแรงมาก
จึงตัดสินใจขับไปเข้าห้องน้ำในปั้ม แต่พอออกมาก็ไม่เห็นใครแล้วจึงไปถามพนักงานในปั้มก็บอกว่า มีรถกู้ภัยฯ นำส่งโรงพยาบาลแล้วก็เข้าใจว่าไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก ตนจึงขับไปหาหมอเพื่อเจาะเลือดและรับยาตามนัด เพราะหมอนัดไว้8โมง จากนั้นก็กลับบ้าน แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยอมรับผิดและพร้อมจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งซ่อมรถ จยย. และค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้เสียหาย
หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายพูดคุยไกล่เกลี่ยกันนายชูศักดิ์ ก็รับปากจะซ่อมรถจักรยานยนต์ให้ พร้อมจ่ายค่าทำขวัญให้ทั้ง3แม่ลูกจำนวน15,000บาท โดยรับปากจะจ่ายให้ไม่เกินวันที่10เม.ย.2564
ด้าน น.ส.ภคินี วิเศษสวัสดิ์ ผู้เสียหาย บอกว่า หลังจากที่ทางคู่กรณีรับปากจะซ่อมรถจักรยานยนต์ และจ่ายค่ารักษาหรือค่าทำขวัญให้ตนและลูกทั้ง3คน จำนวน15,000บาท ก็พอใจเพราะก็ไม่ได้อยากให้เรื่องยืดยาว แค่รู้สึกโกรธที่ทำไมไม่ช่วยเหลือแถมยังหลบหนีอีก ส่วนเรื่องคดีก็แล้วแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการ พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สื่อ และโซเชียลต่างๆ รวมถึงพนักงานปั้มที่ช่วยเหลือด้วย