วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 2, 2024

บุรีรัมย์ ม้าเหล็กฝ่าสายฝนขยี้ร่างชายนิรนามร่างแหลกตอนเช้ามืดเร่งตามญาติ

0

บุรีรัมย์ ม้าเหล็กฝ่าสายฝนขยี้ร่างชายนิรนามร่างแหลกตอนเช้ามืดเร่งตามญาติ


บุรีรัมย์ ม้าเหล็กฝ่าสายฝนขยี้ร่างชายนิรนามร่างแหลกตอนเช้ามืดเร่งตามญาติ

เกิดเหตุรถไฟด่วนพิเศษ กรุงเทพฯ-อุบล ชนคนเสียชีวิต ห่างจากสถานีรถไฟอำเภอห้วยราช 3 กิโลเมตร จนท.ตรวจสอบพบศพเป็นชายอายุประมาณ 60 ปี ไม่พบหลักฐานภายในตัว คาดเป็นคนเร่ร่อน เดินทางตามรางรถไฟ

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 63 เวลาประมาณ 04.00 น.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ จงปัตตา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ห้วยราช ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟอำเภอห้วยราช ว่ามีเหตุรถไฟ ด่วนพิเศษขบวนที่ 23 ต้นทางกรุงเทพ ปลายทาง สถานีอุบลราชธานี
ชนคนเสียชีวิต ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 383/15-16 ก่อนถึงสถานีรถไฟอำเภอห้วยราช ประมาณ 3 กิโลเมตร จึงประสานทางหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม และเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟ ร่วมไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณก่อนถึงสะพานดำ อยู่เขตบ้านห้วยราชพัฒนา ต.ห้วยราช อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ พบชิ้นส่วนมนุษย์ กระจัดกระจายทั่วบริเวณ ห่าง ห่างกันประมาณ30 เมตร พบศพชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 60 ปี รูปร่างผิวดำแดง สวมเสื้อยืดคอกลมแขนยาว สีเขียวฟ้า ใส่กางเกงขาสั้นสีดำ
ในสภาพศพร่างกายแหลกเหลว ชิ้นส่วนขา พันอยู่กับเสื้อ และพบเสื้อผ้ากระจัดกระจายเป็นจำนวนมาก ตรวจสอบอย่างละเอียดไม่พบหลักฐานใดๆ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นคนเร่ร่อน

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ ต้องเดินเก็บชิ้นส่วนมนุษย์ที่กระจัดกระจายทั่วบริเวณ ใส่ผ้าขาวเพื่อนำไปยัง รพ.ห้วยราชเพื่อทำการตรวจสอบ และส่งไปที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์เพื่อให้ทางแพทย์ทำการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อจะประกาศหาญาติต่อไป

นายสุกฤษ์ฎิ์ สนิทชัย อายุ 26 ปี เป็นเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ และเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย บอกว่าหลังทราบเหตุ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เคลียร์พื้นที่อย่างเร่งด่วน เพราะเกรงจะมีเหตุซ้ำซ้อน

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่น่าใช่คนในพื้นที่ น่าจะมาจากที่อื่น ที่ชอบเดินทางเท้ากับรางรถไฟ ซึ่งคนขับรถไฟจะมองไม่เห็นเพราะเป็นที่เปลี่ยว ประกอบกับมีฝนตกลงมาตลอดเวลา จึงอยากฝากเตือนชาวบ้านที่ชอบหาปลาช่วงน้ำหลาก คนเลี้ยงวัวใกลรางรถไฟ หรือคนที่ชอบเดินตามทางรถไฟ โปรดระมัดระวัง สิ่งสำคัญอย่าอยู่บนทางรางรถไฟหรือเดินตามทางรถไฟจะปลอดภัยที่สุด

วาทิตย์ แสนธุปี ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์
คิวภาพ//ที่เกิดเหตุ//เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ//สภาพศพ//เสียงเจ้าหน้าที่รถไฟเตือน

ผลสอบสวนโรค กลุ่มเสี่ยงได้รับเชื้อจากนักเตะไทยลีกชาวอุซเบกิสถาน นักเตะเพื่อนร่วมทีมและ 2 ทีมอุ่นเครื่อง กลุ่มเสี่ยงสูงทุกคนไร้เชื้อ

0

ผลสอบสวนโรค กลุ่มเสี่ยงได้รับเชื้อจากนักเตะไทยลีกชาวอุซเบกิสถาน นักเตะเพื่อนร่วมทีมและ 2 ทีมอุ่นเครื่อง กลุ่มเสี่ยงสูงทุกคนไร้เชื้อ

กรมควบคุมโรค เปิดเผยรายงานความคืบหน้าผลการสอบสวนและควบคุมโรคโควิด-19 กรณีนักฟุตบอลไทยลีกชาวอุซเบกิสถาน ทีมยุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ตรวจพบสารพันธุกรรมเชื้อก่อโรคโควิด -19 เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่สอบสวนโรคเพื่อค้นหาและติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดกับนักฟุตบอลรายดังกล่าว เพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR เมื่อวันที่  13 กันยายน 2563  ประกอบด้วย คนในสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด 47 คน ทั้งหมดเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แต่ให้ผลเป็นลบ คนจากสถานที่อื่นๆ ในจังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้สัมผัส 286 คน จำนวนนี้ 27 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กลุ่มนี้อยู่ระหว่างรอผล  คนในสโมสรราชบุรีมิตรผล มีผูีสัมผัส 44 คน 

โดยมี 11 คนเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แต่ทั้งหมดผลออกแล้วเป็นลบ เช่นเดียวกับคนในสโมสรขอนแก่นยูไนเต็ด มีผู้สัมผัส 51 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 15 คน ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด รวมถึงผู้โดยสารเครื่องบินเดียวกัน มีผู้สัมผัส 13 คน ให้ผลเป็นลบทุกรายเช่นกัน 

สรุปรวมผู้สัมผัสนักบอลรายนี้ทุกสถานที่ 441 คน แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 100 คน ส่วนใหญ่ผลออกเกือบครบไม่พบใครติดเชื้อ ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 341 คน เหลือรอผลการตรวจ 286 คน ในจำนวนที่รอมีกลุ่มเสี่ยงสูง 27 คน 

กรมควบคุมโรค หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนและมาตรการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องจนครบกระบวนการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนชาวไทย ขอให้ทุกคนมั่นใจในมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทยที่มีระบบเข้มแข็งและขอให้ประชาชนยังคงดูแลป้องกันตนเอง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องเช่นเดิม สวมหน้ากาก ล้างมือ แยกของใช้ เว้นระยะห่าง ลดแออัด หากมีข้อสงสัยสามารถโทรสอบถามที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานความคืบหน้าผลการสอบสวนและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรณีนักฟุตบอลไทยลีกชาวอุซเบกิสถาน อายุ 29 ปี ตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อ COVID-19 เมื่อวันที่ 10 ก.ย.นี้ ด้วยวิธี RT-PCR จากผู้สัมผัสรวมผู้สัมผัสทุกสถานที่ 441 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 100 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 341 คน ให้ผลตรวจเป็นลบ 147 คน รอผลการตรวจ 286 คน

  • สโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด มีผู้สัมผัส รวม 47 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทุกราย ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ
  • สถานที่อื่นๆ ในจ.บุรีรัมย์ มีผู้สัมผัส รวม286 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 27 คน อยู่ระหว่างรอผลการตรวจจะครบการกักกันวันที่ 24 ก.ย.นี้ เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 259 คน รอผลการตรวจ
  • สโมสรราชบุรีมิตรผล มีผู้สัมผัส รวม 44 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 11 คน ครบการกักกันในวันที่ 13 ก.ย.นี้ และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 33 คน ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ 43 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ ส่วนอีก 1 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ไม่ได้ลงเตะนัดอุ่นเครื่อง ผลตรวจเมื่อวันที่ 9 ก.ย.นี้ เป็นลบ
  • สโมสรขอนแก่นยูไนเต็ด มีผู้สัมผัส รวม 51 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 15 คน จะครบการกักกันในวันที่ 19 ก.ย.นี้ และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 36 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ
  • ผู้โดยสารเครื่องบินเดียวกัน มีผู้สัมผัส รวม 13 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำทุกราย ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ 6 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ

พบติดเชื้อเพิ่ม 2 คนกลับจากต่างประเทศ

ขณะที่ ศบค.รายงานสถานการณ์ผู้ป่วย COVID-19 ในประเทศไทย มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 2 คน เดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา 1 คนและกาตาร์ 1 คน เข้าพักใน State quarantine รวมผู้ป่วยสะสม 3,475 คน หายป่วยแล้ว 3,312 คน เสียชีวิตสะสม 58 คน 

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ รายแกรเป็นชายไทยอายุ 23 ปีรับจ้างสอนหนังสิอ ถึงไทยวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา เข้าพักใน State quarantine ที่จ.ชลบุรี และวันที่ 12 ก.ย.นี้ ผลตรวจพบเชื้อ ส่วนอีก 1 คน หญิงไทย อายุ 29 ปี นักศึกษา เดินทางถึงไทย 7 ก.ย.ที่ผ่านมาเข้าพักใน State quarantine จ.ชลบุรี และวันที่ 11 ก.ย.ตรวจพบเชื้อ

ข้อมูลข่าวและที่มา

https://news.thaipbs.or.th/content/296401

https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG200914135827198

ผู้สื่อข่าว : นฤมล อุดมพร / สวท.

ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา

แหล่งที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

บุรีรัมย์จับเข่าคุย ทำกีฬาพัฒนาจังหวัด

คณะกรรมาธิการกีฬา วุฒิสภา ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น องค์ความรู้การพัฒนาด้านกีฬา ปัญหาอุปสรรคการพัฒนากีฬาของจังหวัดบุรีรัมย์ นำสู่การพัฒนาคน พัฒนาประเทศ ตามยุทธศาสตร์ชาติ

วันนี้(02 ก.ย. 63) ที่ห้องประชุมนารายณ์บรรทมสินธุ์ พลตำรวจตรี ปรัชญ์ชัย ใจชาญสุกิจ รองโฆษกคณะกรรมาธิการและประธานคณะอนุกรรมาธิการกีฬาและนันทนาการเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายของประชาชน นำคณะอนุกรรมการ เดินทางไปศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดด้านกีฬา และการส่งเสริมการออกกำลังกาย ตลอดทั้งการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้าน การส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาการกีฬาของชาติ และการศึกษาทางวิชาชีพขั้นสูงด้านกีฬา และเสริมสร้างศักยภาพการกีฬาและองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อสร้างคุณค่าในการพัฒนาคน สังคมและประเทศชาติ รวมถึงการศึกษาปัญหาและอุปสรรคของการพัฒนาการกีฬาของไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำไปปรับปรุงวางแนวทางพัฒนากีฬาในระดับนโยบาย โดยมีนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายอนุสรณ์ แก้วกังวาล นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดบุรีรัมย์ ตลอดทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมทั้งนำเสนอข้อมูลการส่งเสริมกีฬาตั้งแต่ระดับครอบครัว สู่การขับเคลื่อนจังหวัดให้เป็นเมืองแห่งกีฬา (Sport City)

ทั้งนี้จังหวัดบุรีรัมย์ได้มีแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดสู่เมืองแห่งกีฬามาตรฐานโลก มีสนามฟุตบอล และสนามแข่งรถที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโลก ในห้วงที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมด้านกีฬา เชื่อมโยงการท่องเที่ยวอารยธรรมขอมสามารถดึงดูดนักเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางสู่จังหวัดบุรีรัมย์อย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าปีละ 8 แสนคน

เช่นการแข่งขันฟุตบอล การแข่งขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก Moto GP การจัดวิ่งบุรีรัมย์มาราธอนระดับโลก การจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาอาวุโสแห่งชาติ ซึ่งจัดควบคู่กับการกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน การการท่องเที่ยวอารยธรรมขอม กระจายรายได้สู่ชุมชน

ส่งผลให้จังหวัดบุรีรัมย์มีการพัฒนาด้านกีฬา พัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบคมนาคมขนส่งทั้งทางบกและทางอากาศแบบก้าวกระโดด มีการส่งเสริมการเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ สู่ความเป็นเลิศ ในทุกระดับตั้งแต่ครอบครัว สถาบันการศึกษา ปัจจุบันมีนักกีฬาอาชีพที่เป็นชาวบุรีรัมย์ไปสร้างชื่อเสียงในระดับชาติจำนวนมาก

พาไปชม!!! ไรองุ่นบุรีรัมย์ ไรองุ่นศรีสุข

เมื่อพูดถึงไร่องุ่น หลายๆคนคงจะนึกพื้นที่กลางหุบเขาแวดล้อมไปด้วยแมกไม้นานาชนิด แต่มครเลยจะรู้ว่า พื้นที่อย่างจังหวัดบุรีรัมย์บ้านเรา ก็สามารถปลูกองุ่นไดด้วยนะเออ

Image may contain: fruit, food and outdoor

ไร่องุ่นศรีสุขเมืองบุรีรัมย์ เป็นไร่องุ่นที่ดูแลโดยคุณ Sutthisak Chomsuk โดยในเฟสบุ๊คส่วนตัวของคุณ Sutthisak ระบุว่าการปลูกองุ่นถือเป็นการข้ามมาอีกขั้น ซึ่งได้พัฒนาการปลูกองุ่นอย่างจริงจัง เพื่อให้ได้องุ่นที่มีคุณภาพ

สำหรับหรับไร่องุ่นศรีสุขเมือง ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ สามารถสอบถามพิกัดเพิ่มได้ที่เฟสบุ๊ค ไร่องุ่นศรีสุขเมืองบุรีรัมย์

ไร่องุ่นศรีสุขเมืองบุรีรัมย์

ปักหมุด
ใกล้ ตำบล อิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ บุรีรัมย์ 31000
https://maps.app.goo.gl/HYjqCihetjrNE38X7

ฮือฮา ไหกระดูกโบราณ ขุดพบที่ ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ มีอายุราว 1,500 ปี

 จากกรณีที่มีชาวบ้านขุดพบไหโบราณและกระดูกของมนุษย์ฝังอยู่ริมทางเลียบคลองชลประทานลำพอก ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา และมีชาวบ้านพากันจุดธูปเทียนขอโชคลาภ กันเป็นจำนวนมานั้น ล่าสุด นางสาวสุภาวดี อินทรประเสริฐ นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปากร ที่ 10 นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่นักโบราณคดี ได้ลงพื้นที่สำรวจ เปิดเผยว่า ไหและกระดูกมนุษย์ ที่ชาวบ้านขุดพบ ดังกล่าวฯ  ยืนยันว่ามีอายุราว 1,500 ปี ถูกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 7 เขตจากรอยต่อ จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ และ จ.ศรีสะเกษ ถือว่ามีสภาพที่สวยงามมากเท่าที่เคยเห็นมา และการมาตรวจสอบครั้งนี้ คือตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยจะนำไหเหล่านี้ไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ฯ เพื่อนำไปล้าง และค้นหาหลักฐานอย่างละเอียด ชัดเจน พร้อมกับกระดูกมนุษย์ที่ขุดพบด้วย ต่อไป 

#ไหกระดูกโบราณ #สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND

logomain

ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : กฤษฎา สุนทร

ผู้เรียบเรียง : วรัญญา นันตาแก้ว

แหล่งที่มา : สวท.สุรินทร์

คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการกลุ่มลุ่มน้ำโขง เลย ชี มูล สงคราม ที่จังหวัดอุบลราชธานี

0

ที่ห้องประชุมพรหมวรราช ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ชั้น 4 จังหวัดอุบลราชธานี นางผ่องศรี แซ่จึง รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ ประธานพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการกลุ่มลุ่มน้ำโขง เลย ชี มูล สงคราม

 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการกลุ่มน้ำทั้งระบบ สภาผู้แทนราษฎร ในการบริหารจัดการน้ำและแนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่กลุ่มลุ่มน้ำโขง เลย ชี มูล สงคราม โดยมีนายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายเสนีย์ ส้มเขียวหวาน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดอุบลราชธานี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ทุกอำเภอ เข้าร่วมประชุม

            นางผ่องศรี แซ่จึง รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ แจ้งที่ประชุมทราบถึงการดำเนินโครงการฯ ที่จะผันน้ำจากแม่น้ำโขง โดยแรงโน้มถ่วง ผ่านแม่น้ำเลย จากจุดเริ่มต้นที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย โดยการก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำ

 มายังอำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อระบายน้ำลงสู่ลำน้ำต่างๆ ให้ครอบคลุม 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งดำเนินการใน 5 ระยะ ประกอบด้วย

 ระยะที่ 1 โขง – เลย – เขื่อนอุบลรัตน์ – ฝายชนบท ชัยภูมิ

 ระยะที่ 2 ฝายชนบท – นครราชสีมา – บุรีรัมย์

 ระยะที่ 3 ลุ่มน้ำชีตอนกลาง – ลุ่มน้ำชีตอนล่าง

 ระยะที่ 4 ลุ่มน้ำมูลฝั่งขวา 

และระยะที่ 5 ลุ่มน้ำโขงอีสาน – ลำปาวตอนบน  – ชีตอนล่าง – มูลตอนล่าง ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี จะได้รับประโยชน์ในระยะที่ 5 โดยเกษตรกรในพื้นที่รับน้ำจะสามารถทำนาได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยไม่รอน้ำฝน ซึ่งจะช่วยลดการอพยพแรงงานออกนอกพื้นที่แต่จะเพิ่มแรงงานจากภูมิภาคอื่น ช่วยบรรเทาอุทกภัยและแก้ไขปัญหาแล้งซ้ำซากในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อีกด้วย

ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : จักรกฤษณ์ มาลาสาย

ผู้เรียบเรียง : วรัญญา นันตาแก้ว

แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี